เครื่องฟอกอากาศแบบไหนดี 3 ปัจจัยหลักๆที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อ

ปฎิเสธไม่ได้เลยจริงๆว่าเครื่องฟอกอากาศ หรือเครื่องกรองอากาศ กลายเป็นสินค้าที่จำเป็นในการดำรงชีวิตประจำวันไปแล้ว เพราะฝุ่น (โดยเฉพาะ PM 2.5) ละอองเกสร ขนสัตว์ นั้นอยู่รอบตัวเราเต็มไปหมด สิ่งเหล่านี้ก็ให้เกิดอาการภูมิแพ้ เป็นหวัด ไม่สบาย บางมีลุกลามกลายเป็นโรคเกี่ยวระบบทางเดินหายใจไปอีก เครื่องฟอกอากาศ เลยกลายเป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้สำหรับปี 2022 ไปแล้ว แต่คำถามคือ เราจะเลือก เครื่องฟอกอากาศแบบไหนดี เพราะปัจจุบันมีเครื่องฟอกอากาศหลายแบบ หลายยี่ห้อ หลายราคา หลายระบบให้เลือกเต็มไปหมด ไหนจะระบบกรองเยอะแยะ HEPA Filter คือ ? เลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว 

ไม่ใช่แค่สินค้าที่ผู้คนเลือกไปใช้เองเท่านั้น เครื่องฟอกอากาศกลายเป็นสินค้าที่หลายๆบริษัทเลือกเป็น ของที่ระลึก ของแจก ของพรีเมี่ยม เพื่อแสดงความห่วงใยและขอบคุณลูกค้า เพื่อนร่วมงาน หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง น้องมันดีจึงอยากนำเสนอ 3 ปัจจัยที่จะช่วยคุณตัดสินใจในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศกัน

 

เครื่องฟอกอากาศแบบไหนดี

 

เครื่องฟอกอากาศแบบไหนดี ? ก่อนอื่นเลย ดูที่จุดประสงค์ในการซื้อไปใช้

สถานที่ที่เราต้องการใช้เครื่องฟอกอากาศนั้น ช่วยเราตัดสินใจได้ดีที่สุด เช่น เราต้องการมีเครื่องฟอกอากาศในห้องนอน เราก็ต้องรู้ขนาดของห้องนอนเราก่อน เราถึงจะเลือกเครื่องฟอกอากาศที่สามารถทำงานได้เหมาะสมกับขนาดห้อง ถ้าห้องนอนเราใหญ่ มีพื้นที่หลายตารางเมตร ก็ต้องเลือกเครื่องกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพในการทำงานครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด เพราะถ้าเลือกเครื่องที่เล็กเกินไป เครื่องฟอกอากาศก็ไม่สามารถจัดการฝุ่น หรือละอองอนุภาคเล็กๆในห้องได้หมด อากาศที่สูดเข้าไปก็จะไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น ในทางกลับกัน ถ้าห้องเล็ก แต่เลือกใช้เครื่องฟอกอากาศที่ครอบคลุมพื้นที่ได้เยอะ อากาศสะอาดแน่ๆล่ะ แต่ก็เกินจำเป็น ทำให้เปลืองค่าไฟเราเปล่าๆ ส่วนใหญ่เครื่องฟอกอากาศที่นิยมใช้ในห้องนานจะเป็นเครื่องฟอกอากาศแบบวางพื้น

หรือถ้าเราต้องการเครื่องฟอกอากาศเอาไว้ใช้ที่โต๊ะทำงาน เครื่องฟอกอากาศตั้งโต๊ะ ก็จะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด เพราะมีขนาดเล็ก และมีประสิทธิภาพครอบคลุมพื้นที่ที่ไม่ใหญ่มากนัก ประมาณ 7-10 ตารางเมตร แน่ล่ะ เราคงไม่ต้องการให้ เครื่องฟอกอากาศตั้งโต๊ะ ต้องทำงานเผื่อแผ่ไปทั้งออฟฟิศ แค่ครอบคลุมโต๊ะทำงานของเราก็เพียงพอแล้ว

เครื่องฟอกอากาศตั้งโต๊ะ

 

เครื่องฟอกอากาศแบบวางพื้น และ เครื่องฟอกอากาศตั้งโต๊ะ นั้น มีระบบแผ่นกรองหลายแบบ แต่ที่นิยมสุดนั้นคือ แผ่นกรอง HEPA (High-efficiency particulate air) หรือ HEPA Filter

HEPA Filter คือ แผ่นกรองที่ทำมาจากเส้นใยแก้วไฟเบอร์กลาสขนาดเล็กมากๆ นำมาถักทออย่างละเอียดสุดๆ ทำให้เจ้า HEPA Filter นี้สามารถดักจับฝุ่นที่มีอนุภาคเล็กขนาด 0.3 ไมครอนได้ ซึ่งเป็นขนาดที่เล็กกว่าฝุ่น PM 2.5 อีกนะ ซึ่งก็ทำให้เราสบายใจได้เลยว่าแผ่นกรอง HEPA นี้จะสามารถดักจับฝุ่นละออง แบคทีเรีย เชื้อรา ขนสัตว์ หรือละอองเกสรดอกไม้ที่ลอยอยู่ในอากาศได้แน่นอน เลข HEPA ที่สูง แปลว่าแผ่นกรองก็ยิ่งมีคุณภาพ

HEPA Filter คือ

นอกจากห้องนอนหรือโต๊ะทำงานแล้ว เครื่องฟอกอากาศพกพา ก็สามารถนำไปใช้ไว้ในรถยนต์ หรือจะเป็นในรูปแบบ เครื่องฟอกอากาศแบบห้อยคอ ซึ่งสามารถพกพาไปได้สะดวกมากๆ เครื่องฟอกอากาศพกพา นั้นโดยมากจะเป็นเครื่องฟอกอากาศระบบ Negative Ionization ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้หลักไฟฟ้าสถิตปล่อยประจุไอออนลบไปในอากาศ ให้ไปไล่จับประจุไอออนบวกของอนุภาคฝุ่นละอองที่ลอยไปลอยมาในอากาศตกลงสู่พื้น ง่ายๆก็คือจะไปสกัดไม่ให้พวกฝุ่นมาถึงตัวเรานั่นเอง เครื่องฟอกอากาศพกพา ที่ได้มาตรฐานนั้น ควรจะสามารถปล่อยประจุไอออนลบได้อย่างน้อย 6 ล้านประจุ/ ลบ.ซม. ถึงจะสามารถดักจับฝุ่นได้ดีนะจ๊ะ พอรู้จุดประสง๕ืแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ที่จะเลิอก เครื่องฟอกอากาศแบบไหนดี ใช่ไม๊ล่ะ

ลำดับถัดไป ดูที่ความสะดวกในการใช้งาน

เครื่องฟอกอากาศที่ดีไม่ควรมีขั้นตอนในการใช้งานที่เยอะ หรือยุ่งยาก ควรจะเป็นในลักษณะ User Friendly ถ้าการตั้งโปรแกรมยุ่งยาก มีหลายขั้นตอน ก็อาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดในการใช้งานได้ ถ้าเป็นเครื่องฟอกอากาศสำหรับห้องนอน สิ่งนึงที่ไม่ควรละเลยก็คือ เสียงรบกวนที่ไม่ควรจะเกิน 30 เดซิเบล ต่อให้เรามีเครื่องฟอกอากาศที่กรองอากาศได้ละเอียดสุดๆ แต่ก็มีเสียงรบกวนที่ดังมากๆเช่นกัน มันก็คงจะไม่คุ้มเพราะเราก็จะนอนไม่หลับ พักผ่อนไม่เพียงพอ

นอกจากนี้ เครื่องฟอกอากาศควรมีลักษณะที่เก็บรักษาและทำความสะอาดง่าย ถ้าเป็นเครื่องฟอกอากาศระบบแผ่นกรอง ก็ควรจะสามารถนำแผ่นกรองออกมาถอดล้างทำความสะอาดได้ หรือมีอะไหล่แผ่นกรอง สามารถเปลี่ยนแผ่นกรองได้ อายุการใช้งานของแผ่นกรองทั่วไปนั้น มีอายุเฉลี่ยประมาณ 6-12 เดือน

ถ้าเป็นเครื่องฟอกอากาศแบบพกพา หรือ เครื่องฟอกอากาศแบบห้อยคอ นอกจากประสิทธิภาพในการปล่อยประจุไอออนลบแล้ว ควรคำนึงถึงระยะเวลาการใช้งาน หรือความคงทนของแบตเตอรี่ด้วย ถ้าระยะเวลาการใช้งานน้อย เช่น ใช้งานได้ 1 ชม. หลังจากชาร์จเต็ม แปลว่าเราต้องคอยชาร์จแบตเตอรี่ทุกๆ 1 ชม. คงจะน่ารำคาญใจไม่ใช่น้อย ฉะนั้นจุดนี้จึงเป็นจุดที่ต้องเช็คดีๆก่อนจะซื้อเครื่องฟอกอากาศพกพา

เครื่องฟอกอากาศแบบไหนดี ? สิ่งที่สำคัญไปไม่น้อยกว่าจุดอื่นคือ งบประมาณของท่านนั่นเอง

เครื่องฟอกอากาศ นั้นมีหลายหลายแบบ หลายยี่ห้อ หลายราคาให้เลือกในตลาด มีตั้งแต่หลักร้อยไปถึงหลักหมื่น ดังนั้น การตั้งงบประมาณ โดยที่ไม่เดือดร้อนกระเป๋าตัวเองมากนัก ก็จะช่วยคัดกรองเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมกับท่านได้ เครื่องฟอกอากาศที่ดี ไม่จำเป็นต้องแพงจนเอื้อมไม่ถึง ถ้าเลือกได้ดีก็จะเป็นสินค้าที่สุดคุ้ม และไม่สิ้นเปลืองเลยล่ะ

และนี่ก็เป็น 3 ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศแบบไหนดี ที่น้องมันดีนำมาฝาก นอกจากเครื่องฟอกอากาศที่ใช้ส่วนตัวแล้ว หากต้องการเลือกหาเครื่องฟอกอากาศมาสกรีนโลโก้ สำหรับทำเป็นของแจก สินค้าพรีเมี่ยม ของที่ระลึก ทางมันดีพรีเมี่ยมได้คัดสรรค์เครื่องฟอกอากาศที่มีคุณภาพ มีทั้งเครื่องฟอกอากาศแบบพกพา และ เครื่องฟอกอากาศแบบห้อยคอ ราคาน่าคบมานำเสนอ รับชมสินค้าตามลิงค์นี้ได้เลยจ้า ตัวเลือกเครื่องฟอกอากาศ

 

หรือหากใครต้องการหาสินค้าพรีเมี่ยม ของแจก ของชำร่วย ที่เกี่ยวกับสุจภาพนอกเหนือจากเครื่องฟอกอากาศแล้ว ทางมันดีพรีเมี่ยมก็มีสินค้าอื่นนำเสนอ คลิกที่ลิงค์นี้ได้เลยค่ะ สินค้าพรีเมี่ยมเพื่อสุขภาพ

Line: @mundeepremiums

Facebook: Mundee Premiums

Tel: 02-422-4288 / 088-554-2526